จุดเด่นสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นระบบใหม่
จุดเด่นสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นระบบใหม่
1.ให้ความสำคัญกับความสามารถในการสื่อสาร
การสอบในรูปแบบใหม่ ไม่ใช่เพียงเพื่อวัดความรู้ทางภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ให้ความสำคัญกับ ความสามารถในการใช้ภาษาญี่ปุ่นเพื่อสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง
2.ปรับกลุ่มวิชาที่สอบ
แบ่งออกเป็น 2 วิชา ดังนี้
(1) ???????????เป็นการสอบ ??????????????? และ ? ??????????????????
(2) ???????????เป็นการสอบ ? ?????????? ในการสอบปัจจุบัน
3.ปรับเปลี่ยนระดับการสอบ
เนื่องจากความยากของข้อสอบระดับ 3 และระดับ 2 ต่างกันมากเป็นพิเศษ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้สอบ จึงได้ปรับเปลี่ยนระบบการสอบจากปัจจุบันที่มี 4 ระดับ เป็น 5 ระดับ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน จึงกำหนดวิธีการเรียกระดับการสอบในรูปแบบใหม่ดังนี้ คือ N1 ? N2 ? N3 ? N4 ? N5 โดยเพิ่มตัวอักษร ?N? ไว้ข้างหน้า โดยมีรายละเอียดดังนี้
ระดับ N1 ระดับที่ใกล้เคียงกับระดับ 1 ในปัจจุบัน แต่ยากกว่าเล็กน้อย
(สอบคำศัพท์ ,ไวยากรณ์ ,การอ่าน (110 นาที) / การฟัง ( 60 นาที))
ระดับ N2 ระดับที่ใกล้เคียงกับระดับ 2 ในปัจจุบัน
(สอบคำศัพท์ ,ไวยากรณ์ ,การอ่าน (105 นาที) / การฟัง ( 50 นาที))
ระดับ N3 ระดับที่อยู่ระหว่างระดับ 2 และ 3 ในปัจจุบัน
(สอบคำศัพท์ ( 30 นาที ) / ไวยากรณ์ , การอ่าน ( 70 นาที) / การฟัง ( 40 นาที))
ระดับ N4 ระดับที่ใกล้เคียงกับระดับ 3 ในปัจจุบัน
(สอบคำศัพท์ ( 30 นาที ) / ไวยากรณ์ , การอ่าน ( 60 นาที) /การฟัง ( 35 นาที))
ระดับ N5 ระดับที่ใกล้เคียงกับระดับ 4 ในปัจจุบัน
(สอบคำศัพท์ ( 25 นาที ) / ไวยากรณ์ , การอ่าน ( 50นาที) / การฟัง ( 30 นาที))
4.อื่นๆ
อื่นๆที่เปลี่ยนแปลงก็คงเป็นเรื่องค่าสมัครสอบที่ขึ้นเป็น 800 บาทสำหรับระดับ N1 N2 N3 และ 600 บาท สำหรับ N4 N5 ต่อการสอบ 1 ครั้ง
นักศึกษาเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tpa.or.th/tpapress/upload/files/New_JLPT2010.pdf